โปรดรอติดตามการกลับมาอัพเดทบล๊อคอีกครั้ง...

แผนที่ทางไปวัด คลิ๊กได้เลยครับ

วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

ขอบคุณผลโหวตผู้ที่จะร่วมทำบุญ


จากที่ผมได้ทำแบบสำรวจว่าใครอยากจะร่วมบุญผ้าป่าที่วัดกับผม จัดตั้งเป็นสายของ luangpoohok.blogspot.com ปรากฏว่ามีผู้ร่วมลงคะแนนถล่มทลายถึง 10ท่าน (เหลือเวลาให้ร่วมโหวตอีก5วัน) แต่ผมก็คาดการณ์ล่วงหน้าไว้แล้วว่าบ้านกำนันคงไม่ต้องไปกัน
แต่ก็นับว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการที่บล็อคนี้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้ามาเยี่ยมชม และในโอกาสต่อๆไปเมื่อบล็อคเป็นที่รู้จักมากกว่านี้(จำนวนครั้งที่เข้าชมไม่ต่ำกว่าวันละ 200 ครั้งจาก ปัจจุบันวันละไม่ต่ำกว่า 100ครั้ง) อาจจะได้ร่วมทำกิจกรรมกันเป็นเรื่องเป็นราวเป็นแน่แท้
สุดท้ายนี้ก็ขออนุโมทนากับผู้ใจบุญทั้งหลายที่อยากร่วมบุญกับผมแต่เมื่อไม่เป็นไปตามนั้นเพราะกติกาผมตั้งไว้แล้วก็คงต้องเป็นไปตามนั้น หวังว่าโอกาสหน้าคงได้ร่วมบุญกันใหม่
ปล.สำหรับท่านที่ร่วมโหวตผมก็มีของสมน้ำหน้าคุณ เอ้ย..ของสมมนาคุณมอบให้ นั่นคือจีวรหลวงปู่เพียงแค่ท่านส่งซองเปล่าติดสแตมป์จ่าหน้าซองถึงตัวท่านเองส่งมาทีผม รายละเอียด โทรถามได้ ตามเบอร์ผมเองครับ  จบข่าว...

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

ข่าวจากวัด 20/01/2556


อัพเดทรายการที่เปิดให้จองอยู่


พระประธานเนื้อหยกขาว 2 .5นิ้ว ที่จะเปิดให้บูชาเร็วๆนี้

องค์นี้ 1/2นิ้ว

กำลังปั๊มซองผ้าป่ากันเพลินเลยครับ

สาธุๆ

องค์นี้อย่างงาม เห็นมีองค์เดียว หน้าตัก 9นิ้ว(มั้งไม่ได้วัด)

รอเข้าโบสถ์ให้หลวงปู่ปลุกเสก

หยกขาวๆ 5 กับ 7 นิ้ว
เมื่อเช้าไปวัดมาเห็นรถจอดมากมายนึกว่ามีงานอะไรกัน ปรากฏว่าเป็นท่านๆที่มาบำเพ็ญประโยชน์สาธารณะ เนื่องจากทำไรมาไม่รู้ หุหุ
ไปหาข่าว เลยได้รูปมาฝาก เป็นยอดจองที่ยังเหลืออยู่และพระประธานจำลอง (พระบูชา)ที่แกะจากหยกที่จะเปิดให้จองกันเร็วๆนี้ รอเข้าโบสถ์ให้หลวงปู่ปลุกเสกเสียก่อน พร้อมกันนั้นยังได้แจ้งชื่อ ประธาน รองประธานผ้าป่า เพื่อกันพลาด เห็นยอดจองที่จดไว้ในสมุดผ่านไป 3-4 หน้าแล้ว แต่ผมไม่ได้นับจำนวน ใครที่ยังช้าอยู่รีบๆหน่อยนะครับ จบข่าว ...
เต้ย ก้นกุฏิ
ครึ่งนิ้ว. ราคา300. บาท
1นิ้ว ราคา400 บาท
2นิ้วครึ่ง. ราคา600. บาท
3นิ้วพร้อมฐาน ราคา2900. บาท
5นิ้วพร้อมฐาน. ราคา5900. บาท
7นิ้วพร้อมฐาน. ราคา19000. บาท
9นิ้วพร้อมฐาน. ราคา39000. บาท

 อัพเดทราคาจากพี่เต้ย เปิดให้บูชาวันอาทิตย์ที่ 27/1/56 นี้ครับ ด่วนๆครับของมีน้อย

วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556

ขนแขน stand up ตอนที่2

Thepanucha Pairoh
เมื่อวันจันทร์ที่ 14 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสคุยกับ ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ส่งงานกับบริษัทไดฟูกุ ( ป๋าชัช อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ) ผมขอเรียกท่านว่าป๋าชัชนะครับ ผมพูดคุยกับป๋าชัช อยู่พักหนึ่งแล้วผมก็ชวนป๋าชัชให้มาร่วมงานทอดผ้าป่าสามัครคีที่จะถึงนี้ในวันที่7 เมษายน 2556 และในวันนั้นพระประธานหยกขาวก็จะมาประดิษฐานที่วัดด้วย ผมพูดถึงตรงนี้ จากนั้นป๋าชัชก็เล่าเรื่องพระประธานหยก ให้ผมฟัง ....อ๋อพระหยกเหรอผมไปเห็นมาแล้ว ไปถึง 3 ครั้ง ไปกลับครูบาโต๊ะกี ( ป๋าชัช เป็นลูกศิษย์ท่านครับ ) ครูบาโต๊ะกีเล่าให้ผมฟังว่า ครั้งแรกที่เห็น และได้สัมผัสพระหยก สามารถสื่อได้ถึงว่าพระหยกองค์นี้ เมื่อทำการแกะสลักเสร็จ ที่ๆจะนำไปประดิษฐานต้องเป็นที่ภาคตะวันออกเท่านั้น เพราะฟ้าเบื้องบนได้ลิขิตเอาไว้แล้ว ท่านครูบาโต๊ะกีท่านว่าอย่างนั้น เพราะภายภาคหน้าอาจจะมีภัยทางธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา พระหยกองค์นี้ต้องนำไปประดิษฐานที่นั้น ผมฟังมาถึงตรงนี้ ผมขนลุกสู้เลยทั้งตัวเลยก็ว่าได้ครับ และครูบาโต๊ะกีท่านเองก็ไปสักการะพระหยกบ่อย แต่ละครั้งที่ท่านไปท่านก็จะสือถึงพระหยกอยู่เสมอ ( 3 ครั้งแล้วครับที่ท่านไป ป๋าชัชบอกอย่างนั้น ) ผมถามถึงที่มาที่ไปเกี่ยวกับพระหยก ป๋าชัชก็บอกว่าครูบาโต๊ะกีสามารถสือได้ว่าพระหยกองค์นี้ก่อนที่จะนำมาแกะสลักนั้น เมื่อก่อนอยูในถ้ำที่ประเทศจีน ทุกครั้งที่ป๋าชัชขึ้นเชียงรายไปกราบใหว้ครูบาโต๊ะกี ท่านก็จะชวนไปกราบใหว้พระประธานหยกองค์นี้เสมอ ผมถามป๋าชัชว่าป๋าทราบไหมว่าพระประธานหยกองค์นี้จะมาประดิษฐานที่วัดราษฎร์เรืองสุข ( มาบลำบิด ) จ.ชลบุรี ป๋าชัชบอกว่าไม่ทราบ ทราบแต่ว่าภาคตะวันออกเท่านั้น ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าที่ จ.ชลบุรี พอผมบอกกับป๋าชัชว่าอยู่ที่นี่อยู่ที่ จ.ชลบุรี ป๋าชัชแกถึงกับขนลุกขนชันไปหมดเลยครับ ( เหมือนกับอาการที่ผมเป็นเลยครับ ) และออกอาการตื่นเต้น ว่าอยากเห็นอีกสักครั้ง..
จากนั้นผมได้มีโอกาสพูดคุยกับท่านเจ้าอาวาส อาจารย์ ณรงค์ วัดราษฎร์เรืองสุข ( มาบลำบิด ) ใจความว่าพระประธานหยกนั้นเดิมทีมีพระสงฆ์ทางภาคอีสานได้มาสั่งจองไว้เพื่อจะนำไปถวายแด่ราชวงค์ไทยเรา จองแล้วแต่ก็ไม่มาเอา ขาดการติดต่อ ( ยังไม่มีการชำระในการจอง ) จนกระทั่งพระอาจารย์ณรงค์ไปพบ และได้จองไว้เพื่อจะได้มาประดิษฐานที่วัดราษฎร์เรืองสุข ( มาบลำบิด ) จ.ชลบุรี ซึ่งก็ตรงกับที่ครูบาโต๊ะกีได้ไปเห็นครั้งแรกแล้วก็พูดว่าพระหยกองค์นี้ต้องอยู่ที่ภาคตะวันออกเท่านั้น เพราะฟ้าเบื้องบนได้ลิขิตเอาไว้แล้ว ผมถามพระอาจารย์ณรงค์เกี่ยวกับที่มมาที่ไปของพระประธานหยก ท่านบอกว่ามาจากพม่า ผมเลยเล่าความที่ผมได้ยินได้ฟังมาให้อาจารย์ณรงค์ฟังว่า มีพระครูบารูปหนึ่ง ท่านชื่อว่าครูบาโต๊ะกี ท่านเคยพูดกับลูกศิษย์ท่านว่า ต่อไปภายภาคหน้าจะมีพระหยกที่มีขนาดใหญ่มาจากถ้ำเมืองจีน และจะนำไปประดิษฐานที่ภาคตะวันออก แต่ไม่ทราบวัด ท่านอาจารย์ณรงค์รับฟัง และบอกว่าจริงๆแล้ว พระประธานหยกนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่จะอยู่ทางจีน เพราะว่าเส้นทางนั้น ถ้าจะเรียบเรียงก็จาก หยกขนาดใหญ่ที่อยู่ในถ้ำเมืองจีนที่ครูบาโต๊ะกีได้กล่าวไว้ – จากนั้นก็เข้ายูนาน – ผ่านพม่า – และเข้ามายังประเทศไทย – เชียงราย ( ขนลุกเลยครับเส้นทางการเดินทางของพระประหยก จากหยกก้อนใหญ่แกะสลักออกมาอย่างสวยงาม )
น้ำตาแห่งความปลื้มปิติยินดีไหลเลยครับ เส้นทางยาวใกลกว่ากว่าจะถึง และจุดสุดท้ายที่จะประดิษฐานก็คือวัดราษฎร์เรืองสุข ( มาบลำบิด ) จ.ชลบุรี เพราะบารมีหลวงปู่ฮก รติธนฺโร และท่านเจ้าอาวาส พระครูณรงค์สุทธิพรมจรรย์ ที่จะทำให้เราประชาชนทุกแขนงได้ชมบารมีพระประธานหยกที่งดงามที่สุด และใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกได้ชมกัน และในวันที่ 7 เมษายน 2556 ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ ผมขอเชิญผู้มีจิตศัทราร่วมกันทอดผ้าป่าสามัครคีกัน ที่วัดราษฎร์เรืองสุข ( มาบลำบิด ) จ.ชลบุรี เวลา 10.00 และในเวลา 09.00 เป็นการอัญเชิญพระประธานหยกขึ้นประดิษฐาน ณ โบสถหลังใหม่โดยพร้อมเพียงกันครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับเรื่องที่ผมบอกเมื่อบทความเรื่องที่แล้วท่านที่อ่านจบมีอาการเหมือนผมหรือเปล่า ก็ต้องขอขอบคุณพี่หนึ่งครับที่ช่วยเรียบเรียงและเล่าเรื่องนี้ให้ฟังหวังว่าในโอกาสต่อไปจะได้รับความอนุเคราะห์ในการนำบทความที่เกี่ยวกับหลวงปู่มาเล่าสู่กันฟังอีก ขอบคุณมากมายก่ายกอง จบข่าว...

วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556

ขนแขน stand up

เมื่อวานได้คุยเฟสกับพี่หนึ่งเจ้าเก่า ซึ่งเรื่องที่คุยนั้นทำให้ผมถึงกับขนแขน stand up กันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระประธานเนื้อหยกขาวที่กำลังจะเดินทางมาประดิษฐานยังอุโบสถหลังใหม่วัดมาบลำบิดของเรานี่แหละครับ แต่เนื้อความจะเป็นอย่างไรนั้นเดี๋ยวผมจะขอให้พี่หนึ่งช่วยเรียบเรียงและผมจะนำมาเขียนให้อ่านกันในคราวต่อไป เพราะเรื่องนี้พี่หนึ่งได้ฟังมาด้วยตัวเอง รับรองว่าถ้าใครได้อ่านเรื่องดังกล่าวแล้วต้องเกิดอาการเหมือนผมแน่นอน ขนแขน stand up
ย้อนมาถึงเรื่องลงชื่อร่วมบุญผ้าป่ากันสักหน่อยครับผ่านมา3 วัน แล้วยังเงียบเหมือนเดิมครับผม ก็ไม่เป็นไรครับแล้วแต่ศรัทธา แต่ยังเหลือเวลาให้ร่วมลงชื่ออีกครึ่งเดือนถ้าไม่มีก็ตัวใครตัวมันครับผม
ส่วนผมก็มีอยู่แล้ว 3 กอง กำลังล่ารายชื่อเหมือนกันเพื่อส่งรายชื่อประธานและรอง ให้ทันก่อนที่หนุมานแจกประธานกับท่านรองจะหมดเสียก่อนส่วนกรรมการก็ไม่ได้ชะล่าใจทันแน่นอนครับผม
อ้อ..นึกขึ้นได้ขอเล่าให้ฟังกันสักนิด เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาที่บริษัทที่ผมทำงานอยู่จัดอบรมพนักงานทั้งหมดและได้เชิญวิทยากรมาบรรยาย เรื่องเกี่ยวกับพวกพลังงาน มีอยู่ช่วงหนึ่งที่วิทยากรท่านพูดถึงเรื่องสถาพอากาศปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มีพายุเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่ที่มีอยู่แล้ว และยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และในอนาคตอีกสัก 4-5 ปีข้างหน้า แถบพื้นที่ชายฝั่งทะเลบ้านเราอาจเกิด"พายุ เหมือนที่เคยเกิดที่พม่าและเวียดนาม !!!"
ซึ่งสาเหตุมาจากสภาพอาการที่แปรปรวน เหมือนที่เราๆท่านๆพบเจอกันอยู่ทุกวันนี้ และนั่นก็หมายรวมถึงแถบชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของเราด้วยที่อาจจะเจอกับมัน ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นจริงหรือเปล่าก็คงต้องรอดูกันต่อไป และ เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องพระประธานหรือไม่อย่างไร เอาไว้ผมจะให้พี่หนึ่งมาเล่าให้ฟังครับผม จบข่าว...

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

ผ้าป่ากองนี้สาย http://luangpoohok.blogspot.com

หนุมานที่จะแจกผ้าป่า

จีวรและเกศาหลวงปู่ที่จะแบ่งให้บูชา
สืบเนื่องจากบล็อคหลวงปู่ฮกนี้ มีจำนวนผู้เข้าชมแต่ละวันมากกว่า 100 ครั้ง จึงทำให้เกิดแนวคิดว่าจะตั้งกองผ้าป่าสายของบล็อค luangpoohok.blogspot.com เพื่อทดสอบความเชื่อมั่นของผู้เข้าชมที่มีต่อบล็อคว่าเป็นเช่นไรบ้าง และอีกอย่างหลายท่านอาจจะอยากร่วมบุญผ้าป่าในครั้งนี้แต่ติดที่ว่าอยู่ไกลการเดินทางมาอาจจะไม่สะดวก นั่นจึงเป็นที่มาของแนวคิดนี้ เพื่อจะเปิดโอกาสให้คณะศรัทธาจากทั่วประเทศได้ลงชื่อ ร่วมเป็นประธาน รองประธาน และกรรมการ ผ้าป่ากองนี้ร่วมกันกับผม(เจ้าบ้าน)  โดยหลักการทุกอย่างจะเหมือนกับการลงชื่อกับทางวัดทุกประการครับ คือประธานจะได้รับ หนุมานเนื้อนวะก้นเงิน รองประธานได้รับ หนุมานเนื้อนวะ และกรรมการจะได้รับ หนุมานเนื้อทองแดงรมดำหรือทองฝาบาตร แต่จะมีพิเศษตรงที่ ผ้าป่ากองนี้จะมี เกศา และ จีวร หลวงปู่มอบให้ด้วย(ผมขอหลวงปู่มา)
แต่ก่อนที่จะไปถึงรายละเอียดต่างๆว่าต้องทำอย่างไรบ้างในการจะร่วมบุญในครั้งนี้ ผมได้ทำแบบสอบถาม ให้ผู้ที่เข้าชมลงคะแนนว่าอยากจะร่วมบุญกับผมในครั้งนี่หรือเปล่า ถ้าผลสำรวจมีมากกว่า 20 ท่าน ผมถึงจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบต่อไป แต่ถ้าหาก ต่ำกว่า 20 ท่าน ก็บ้านใครบ้านมัน (แบบสำรวจอยู่ขวามือใต้เจ้าบ้านเห็นหรือเปล่าครับ)
หรืออีกช่องทางคือ ลงชื่อไว้ที่ช่องตอบกระทู้ใต้บทความนี้ก็ได้ ปิดรับการลงชื่อ สิ้นเดือนนี้ครับผม หากสถานะการเหมือนกับการตอบแบบสำรวจ ก็บ้านใครบ้านมันเหมือนกันครับผม จบข่าว...

วันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2556

ผ้าป่า สมทบทุนสร้างอุโบสถ วัดมาบลำบิด 7เม.ย.56

ตั้งใจว่าจะเขียนเรื่องงานบุญผ้าป่าที่วัด ประมาณเดือน ก.พ. หรือ ต้น เดือน มี.ค. ประมาณนั้นเพราะเกรงว่าถ้าเขียนเรื่องนี้เร็วไปแล้วบทความจะตกหน้าและลืมกันไปเสียก่อน แต่เมื่อวันก่อนได้เข้า facebook กลุ่มศรัทธาพระใหม่หลวงปู่ฮก รตินฺธโร เห็นพี่เต้ย ก้นกุฏิ เอารูปซองผ้าป่ามาโพสในกลุ่ม และแจ้งว่าให้ไปรับซองผ้าป่ากันได้แล้ว ผมจึงต้องรีบขยับเขียนเรื่องนี้ทันทีไม่รอช้า เผื่อผู้ที่เพิ่งรู้จักหลวงปู่จะไม่ทราบว่าทางวัดจะมีงานบุญผ้าป่าในอีก 3 เดือนข้างหน้า เมื่อรู้แล้วและอยากร่วมบุญในครั้งนี้ด้วยจะได้รีบหารายชื่อ ประธาน รองประธาน และกรรมการ ในสายของตัวเอง มาร่วมบุญกัน
และที่สำคัญจะได้ไม่พลาดของที่ระลึกผ้าป่าในครั้งนี้ คือ หนุมาน สำหรับหนุมานที่จะแจกมีดังนี้ ประธานจะได้รับ หนุมานเนื้อนวะโลหะก้นเงิน(สร้างเพียง 699 ตน) รองประธานจะได้รับ หนุมานเนื้อนวะโลหะ(สร้างเพียง 999 ตน) และกรรมการจะได้รับ หนุมานเนื้อทองแดงรมดำหรือทองฝาบาตร(สร้างอย่างละ 5000 ตน) ทุกรายการทำการปลุกเสกเดี่ยวโดยหลวงปู่ฮก รตินฺธโร
สำหรับการรับซองผ้าป่านั้นผมได้สอบถามท่าน อ.ณรงค์(เจ้าอาวาส)แล้ว ท่านว่าจะรับซองไปเลยแล้วไปเขียนชื่อเอาเองหรือจะเอารายชื่อไปให้ทางวัดจัดพิมพ์ให้ก็ได้แล้วแต่เราจะสะดวกอย่างไหน ถ้าสะดวกอย่างแรกก็สามารถเข้าไปรับซองกันได้เลย แต่ถ้าเป็นอย่างหลังก็ให้รีบๆ ล่ารายชื่อและรีบส่งให้วัดเพราะเกรงว่า หนุมานสำหรับท่านประธานกับท่านรอง จะหมดเสียก่อนเพราะของมีจำนวนจำกัด
สำหรับวันทอดผ้าป่านั้นทางวัดกำหนดให้เป็นวันอาทิตย์ที่ 7 เม.ย. 2556 งานในวันนั้นก็จะมีพิธีทอดผ้าป่า และซึ่งผมคาดว่าจะมีลูกศิษย์ลูกหาหลวงปู่มากันเนืองแน่นเช่นเดิม นอกเหนือจากพิธีทอดผ้าป่าแล้ว ท่าน อ.ณรงค์ ยังกำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันที่ร่วมกันอัญเชิญพระประธานหยกขาว(หน้าตัก 99 นิ้ว สั่งทำจากเชียงราย) ขึ้นประดิษฐาน ยังแท่นของอุโบสถบนชั้น2อีกด้วย เรียกได้ว่าได้บุญกัน2 ต่อ เลยทีเดียวถ้าใครได้ไปร่วมงานวันนั้น
นอกจากจะได้อิ่มบุญกันเต็มหัวใจแล้วท้องก็ต้องอิ่มด้วยเพราะจะมีโรงทานมาเลี้ยงอาหารแก่คณะศรัทธาได้กินกันฟรีตลอดงานชนิดที่ว่าไม่อิ่มไม่ต้องกลับบ้านกันเลยทีเดียว
นี่เป็นเนื้อหาเบื้องต้นหากว่ามีข่าวที่อัพเดทมากกว่านี้ ผมจะนำมาอัพเดทให้ทราบกันในคราวต่อไป
สุดท้ายนี้เมื่อท่านได้อ่านบทความนี้จบก็อย่านิ่งนอนใจนะครับ บอกได้คำเดียว ประธานกับรอง ของมีน้อย จบข่าว...

วันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2556

สวัสดีปีใหม่ 2556


ก็ล่วงเลยปีใหม่มาได้ 11 วันแล้ว ยังไม่ได้กล่าวสวัสดีปีใหม่คณะศรัทธาทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บบล็อคแห่งนี้ วันนี้ก็ขอกล่าวคำว่า"สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังแล้วกันครับ "
ตั้งแต่คิดและเริ่มเขียนบล็อคนี้ขึ้นมาจนถึงปัจจุบันผมสังเกตพัฒนาการการเข้าชมบล็อคแห่งนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นสืบเนืองมาจาก บารมีของหลวงปู่ฮก เริ่มเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นทำให้จำนวนผู้ที่อยากเสาะหาประวัติความเป็นมาของหลวงปู่เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ เหมือนผมในตอนแรกที่เพิ่งรู้จักหลวงปู่จากเว็บ ซื้อ-ขาย พระแห่งหนึ่งจึงสืบค้นประวัติท่านจากอินเตอร์เน็ต ว่าท่านเป็นใครมาจากไหน แต่ก็ไม่มี จึงต้องไปหาท่านเองและเขียนประวัติท่านเองเพื่อเผยแพร่ให้คนทั่วไปได้รับรู้ว่า ที่วัดมาบลำบิด อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ยังมีพระแท้ๆจำพรรษาอยู่
แต่เมื่อผมย้อนกลับไปอ่านประวัติท่านครั้งแล้วครั้งเล่าก็เห็นว่ายังมีอีกหลายแง่มุม ที่ยังไม่ละเอียดเพียงพอ เพราะไปคุยกับหลวงปู่เมื่อไรก็จะมีเรื่องใหม่ๆที่หลวงปู่เล่าเพิ่มเติมตลอด จึงคิดว่าจะสัมภาษณ์หลวงปู่ให้ละเอียดที่สุดอีกครั้ง  ก็คงไม่นานหากยังติดตามบล็อคอยู่ก็คงได้อ่านกันแน่นอน หรือหากผู้อ่านอยากทราบเรื่องอะไรเกี่ยวกับหลวงปู่ก็แนะนำกันมาได้ครับ
สุดท้ายนี้ ก็ขอให้ อำนาจ บุญบารมี ของหลวงปู่ฮก รตินฺธโร อวยชัยให้พร ทุกท่านทุกคนที่แวะเวียนเข้ามายังบล็อคแห่งนี้จะประสบแต่ความสุข ความสำเร็จในหน้าที่การงาน ทำการสิ่งใดก็ขอให้ลุล่วงโดยง่าย สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยๆ กันทุกผู้ทุกคนเทอญ  สาธุ
ภาพประกอบจาก:facebook ศรัทธาพระใหม่หลวงปู่ฮก รตินฺธโร

วันพุธที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2556

พระประธาน




ผมได้เคยแจ้งข่าวคราวเกี่ยวกับเรื่องความคืบหน้าของพระประธานหยกขาวหน้าตัก 99นิ้ว ที่ทางวัดสั่งทำไว้บ้างแล้วว่าคณะ อ.ณรงค์ จะเดินทางไปดูองค์พระเป็นครั้งสุดท้ายกลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เพื่อให้ช่างแก้ไขรายละเอียดให้ลงตัวที่สุดก่อนที่จะขัดผิว บังเอิญว่าเข้าไปเจอรูปที่เว็บ www.webpradee.com เลยนำรูปมาให้ชมกันและแจ้งข่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าี
ได้สอบถามท่าน อ.ณรงค์แล้วท่านบอกว่าองค์พระนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้วจะนำมาเลยวันนี้ก็นำมาได้แต่จะรอนำองค์พระประธานมา ในวันที่7 เมษายน 2556 ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันทอดผ้าป่าของทางวัด เพราะในวันนั้นคาดว่าจะมีญาติโยมมาเยอะจะได้ ได้บุญใหญ่เพิ่มอีกนอกจากทอดผ้าป่าแล้ว ยังจะได้ช่วยกันนำพระประธานขึ้นประดิษฐานยังอุโบสถหลังใหม่พร้อมกันอีกด้วย 
ส่วนเรื่องชื่อของพระประธานนั้นผมเคยถามท่าน อ.ณรงค์แล้วแต่ท่านยังไม่มีชื่อ ท่านว่าคงจะเรียก"หลวงพ่อหยก หรือหลวงพ่อหยกขาว ไปก่อน"
ถ้าให้ผมตั้งผมก็มีชื่ออยู่ในใจ 2-3ชื่อ เช่น หลวงพ่อพุทธประธานเศวตมณีศรีราษฎร์เรืองสุข  หลวงพ่อพุทธมณีศรีราษฎร์เรืองสุข  จบข่าว...
ขอขอบคุณรูปภาพจาก :www.webpradee.com



วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

รูปใครเอ่ย?



สรุปยอดจองวัตถุมงคล 6 ม.ค. 56

ภาพอัพเดทการก่อสร้างโบสถ์ 6 ม.ค .56

เมื่อเช้าไปกราบหลวงปู่พร้อมกับรับพระรูปหล่อที่จองไว้แล้วไม่ได้ไปรับเมื่อวันที่1/1/56 ที่ผ่านมา ได้แต่พระครับปฏิทินหมด แต่โชคยังดีตอนกลับจากบ้านนอกแวะเข้าไปกราบหลวงปู่ แล้วหลวงปู่ให้มา2ฉบับ เผอิญแอบเห็นว่ามีรูปใส่กรอบวางไว้แถวตู้เช่าวัตถุมงคล มองไปมองมา นั่นรูปหลวงปู่นี่ เลยถ่ายรูปมาแบ่งปันให้ดูกันครับ 
เลยถามหลวงปู่ว่าเป็นรูปถ่ายที่ไหนเมื่อไร หลวงปู่บอกว่า "ถ่ายที่วัดศรีโขง จ.เชียงใหม่ ตอนท่านไปอยู่ปริวาส เมื่่อตอนที่ท่านอายุประมาณ 60กว่าปี"
วันนี้ไม่ค่อยมีลูกศิษย์มากเท่าไรเลยนั่งคุยไปเรื่อยๆ ถามหลวงปู่ถึงเรื่อง งูจงอาง ที่วัดเขาน้อยมีจริงหรือเปล่าเพราะได้อ่านประวัติจากที่พี่หนึ่งให้มาแล้วบอกว่ามีงูจงอางที่นั่น2ตัว
หลวงปู่บอกว่า "ไม่เคยเห็น เห็นแต่พี่โทนเขาเอากระแป๋งตักน้ำไปแล้วบอกว่าตักไปให้งูกิน "
ถามหลวงปู่ว่าหลวงปู่ลอยได้ลอยไปไหนมาครับ(รู้ว่าหลวงปู่ท่านไม่ตอบหรอก) หลวงปู่ท่านบอกว่า"เห็นเขาพูดๆกันแต่ท่านก็ไม่รู้ว่าท่านลอยได้เมื่อไร"

แล้วก็เลยย้อนถามประวัติหลวงปู่ใหม่ถามว่าหลวงปู่เคยเรียนหนังสือหรือเปล่า แล้วเรียนถึงชั้นไหน หลวงปู่ตอบว่า "เรียนถึงชั้น ป.2 ออกมาก็ไปรับจ้างทำสวนหมาก สวนมะพร้าว แถวนั้น เพราะเมื่อก่อนท่านลำบาก ชุดนักเรียนมีชุดเดียว กลับมาจากโรงเรียนก็ซักแล้วเอาย่างไปให้แห้งเพื่อใส่ต่อในวันรุ่งขึ้น"
สรุปได้ว่าท่านไม่ได้จบ ป.4 ไม่ได้ทำนา ไม่ได้เป็นทหาร ครับผม
สุดท้ายก็เก็บรูปยอดจองวัตถุ อัพเดทล่าสุด กับ การก่อสร้างล่าสุดมาฝากครับผม จบข่าว...
 

วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

เพื่ออะไร?


ชั่งใจอยู่นานครับว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีหรือเปล่า เพราะอย่างไรเสียจุดมุ่งหมายที่ผมได้วางไว้ตั้งแต่แรกก็สมดังความคาดหวังแล้วนั่นคือ ทำให้ผู้คนทั่วประเทศได้ทราบถึงประวัติของ องค์หลวงปู่ฮก รตินฺธโร ว่าท่านเป็นใครมาจากไหน แต่อีกใจกลับคิดว่าไม่ยุติธรรมเท่าไรที่ประวัติต่างๆที่ผมได้เรียบเรียงเขียนขึ้นมานั้นกลับกลายเป็นเครดิตของคนอื่น
จากครั้งแรกที่ผมได้เห็นประวัติของหลวงปู่ได้ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งผมตื่นเต้นที่ได้เห็นเรื่องที่ผมเขียนได้เผยแพร่ในสื่ออื่นๆ แต่เมื่ออ่านจบกลับไม่มีเครดิตว่ามาจากไหน
จนประวัติของหลวงปู่ท่านได้ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์อีก อย่างน้อย 2ฉบับ และนิตยสารพระเครื่องอีก 1ฉบับ ถ้าใครเป็นลูกศิษย์ที่ติดตามเรื่องราวของหลวงปู่คงจะทราบว่ามีเล่มไหนบ้าง และยังได้เผยแพร่ไปยังเว็บอื่นๆอีกมากมายพร้อมกับเครดิตที่ไม่ใช่บล็อคแห่งนี้
แล้วยังไงล่ะครับหลายครั้งที่เปิดดูเว็บที่มีประวัติหลวงปู่พร้อมกับมีเครดิตเป็นชื่อคนอื่นแสดงว่าคนที่เขานำไปเผยแพร่ต่อนั้นยังมีมารยาทอยู่ครับที่ยังให้เครดิตของที่มาของบทความซึ่งเขาอาจจะไม่ทราบว่าใครเป็นผู้เรียบเรียงคนแรก แต่จะยังไงก็ตามผมยังคิดว่าประวัติของหลวงปู่ฮกที่เผยแพร่กันอยู่นั้น ในบล็อคนี้ถูกต้องมากที่สุดเพราะผมไปนั่งถามหลวงปู่มาด้วยตัวเองเป็นเวลาเกือบเดือนกว่าจะรวบรวมมาเรียบเรียงได้ หากท่านได้ย้อนกลับไปอ่านบทความแรกๆที่ผมได้เขียนก็จะทราบว่าความเป็นไปเป็นมาเป็นอย่างไร
ก็หวังว่าท่านจะได้รับข้อมูลประวัติที่ถูกต้องที่สุดของหลวงปู่ที่บล็อคนี้นะครับ ก็ยังดีใจครับว่าผมมีส่วนทำให้บารมีของหลวงปู่กระจายไปทั่วประเทศไทย

ผู้ละแล้ว

ไม่ได้มาอัพบล็อคเสียนานเนื่องด้วยติดภารกิจเรื่องงาน รวมถึงเดินทางกลับบ้าน(นอก)ทำให้ตัดขาดจากข่าวสารทางเน็ตทั้งหมด เตรียมเรื่องไว้นานแล้วมีโอกาสเสียทีวันนี้ ที่จะเขียนถึงวันนี้ก็จะเป็นเรื่องตามชื่อบทความนั่นแหละครับ ไม่ได้หมายถึงผมแต่หมายถึง หลวงปู่ฮก ของเรานี่เองครับ
รตินฺธโร ฉายาของหลวงปู่หมายถึง ผู้ละแล้ว ซึ่งหากใครได้เห็นวัตรปฏิบัติขององค์หลวงปู่ก็จะทราบได้เองเลยว่าหลวงปู่ท่านเป็นผู้ละแล้วจริงๆ
ทุกครั้งที่ผมไปกราบหลวงปู่จะเห็นหลวงปู่ท่านทำอะไรง่ายๆ อยู่ง่ายๆ ฉันง่ายๆใครจะมาขอให้ท่านทำอะไรๆให้ หลวงปู่ท่านก็ไม่เคยขัดศรัทธาญาติโยม ไม่ว่าจะมาเจิมรถ จารเหรียญ เสกกระเป๋า เป่ากระหม่อม ถ่ายรูป หลวงปู่ท่านก็จัดให้ไม่เคยบ่น(ให้ได้ยิน)
หลวงปู่ท่านเคยพูดว่าหลวงปู่ไม่มีอะไรเลยไม่สะสมเงินทอง คือปัจจัยที่ได้จากซองต่างๆท่านจะไม่เก็บไว้เองท่านว่ามีเท่าไรก็เอาไปสร้างโบสถ์หมด ท่านว่าสร้างไว้ให้เขาด่า ผมเลยงงว่า สร้างแล้วใครจะมาด่า ด้วยความเป็นคนมีอารมณ์ขันหลวงปู่จึงพูดต่อว่า เขาจะด่าว่ามันจะทำอะไรขนาดนี้(พูดพร้อมกับหัวเราะตามสไตล์หลวงปู่) ที่ว่าขนาดนี้คือโบสถ์ราคาตัวเลข 8 หลัก แล้วเรื่องที่ไม่สะสมเงินทองท่านก็ว่าทำไว้เป็นตัวอย่างให้พระลูกพระหลานดู
ก่อนจะสร้างเห็นหลวงปู่ว่ามีคนมาดูๆจะสร้างให้อยู่เหมือนกัน(ไม่รู้ใคร)แต่เขาบอกว่าที่ตั้งวัดมันไกลเกินไปหลวงปู่มีบ่นเล็กน้อยมันจะไกลแค่ไหนเชียวทีไปสร้างอยู่ต่างประเทศยังไปสร้างกันได้ไม่ไกลกว่านี่อีกเหรอ
เมื่อเป็นดังนั้นทางวัดจะต้องหาทุนในการก่อสร้างเอง แต่เนื่องด้วยวัดเป็นวัดที่อยู่ไกลตัวอำเภอและไม่เป็นที่รู้จักของคนต่างถิ่นทำให้การจะหาทุนเป็นค่าก่อสร้างนั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบาก อ.ณรงค์ท่านเลยขออนุญาติ หลวงปู่จัดสร้างพระเครื่องรุ่นแรกของหลวงปู่ขึ้นเพื่อหาเงินสมทบทุนในการก่อสร้าง
หลวงปู่บอกว่าถ้าไม่สร้างพระก็ไม่มีวิธีไหนจะหาเงินมาสร้างโบสถ์ได้ ทั้งที่หลวงปู่ท่านพูดเสมอว่าถ้าไม่สร้างโบสถ์ท่านก็ไม่สร้างพระไม่อยากแย่งอาชีพเขา แต่มันจำเป็น แต่นั่นใช่ว่าเมื่อสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาสักรุ่นแล้วจะหาเงินทุนเพียงพอกับค่าก่อสร้าง ทางวัดจึงสร้างวัตถุมงคลตามออกมาอีกหลายรุ่นการที่จะสร้างออกมาหลายรุ่นได้นั้นของต้องดีจริงและมีประสบการณ์กับผู้บูชา ซึ่งรุ่น2 ก็ได้สร้างประสบการณ์แก่ผู้บูชา จนทำให้ทุกรุ่นที่ออกจากวัดถูกจับจองเช่าหาจนหมดจากวัดอย่างรวดเร็ว เกือบทุกรุ่นล้วนมีประสบการณ์ทั้งนั้น(ทุกรุ่นปลุกเสกเดี่ยวโดยองค์หลวงปู่) นั่นจึงทำให้หลวงตาแก่ๆที่แทบไม่มีใครรู้จักเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ
ด้วยบารมีของหลวงปู่และความมุ่งมั่นที่จะสร้างอุโบสถหลังนี้ไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์สืบทอดพระพุทธศาสนาและเป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจของวัด ท่านจึงตั้งใจอย่างเต็มกำลัง ทั้งเรื่องวัตถุมงคลและกิจนิมนต์ เดิมทีหลวงปู่ท่านตั้งใจจะไม่รับกิจนิมนต์ที่ไหนแต่เนื่องด้วยท่านคิดถึงโบสถ์ที่กำลังก่อสร้างและท่านเริ่มเป็นที่รู้จักหลายวัดก็อยากนิมนต์ท่านไปร่วมพิธี ทำให้ท่านรับกิจนิมนต์บ้าง ในระยะทางที่ท่านพอจะเดินทางไปไหวเพราะท่านก็ชราภาพมากแล้ว(87ปี) หากโบสถ์หลังหลังนี้สร้างเสร็จ คงไม่ได้เห็นหลวงปู่ออกวัตถุมงคล และรับกิจนิมนต์ที่ไหนอีก ตามเจตนารมณ์ที่หลวงปู่ท่านพูดอยู่เสมอๆ และสมกับฉายา รตินฺธโร ของท่าน
ปัจจุบันทางวัดยังมีวัตถุมงคลเปิดให้เช่าบูชาอีกหลายรายการเพื่อสมทบทุนสร้างโบสถ์หลังใหม่ หากท่านใดอยากร่วมบุญกับองค์หลวงปู่สามารถเช่าหาวัตถุมงคลเหล่านั้นได้ที่วัด หรือสอบถามที่ อ.ณรงค์(เจ้าอาวาส)ได้โดยตรงครับ จบข่าว...